4^gdH(


        จังหวัด ภูเก็ต ได้รับสมญานามว่า มุกงามของเมืองไทย จุดหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆคนสถาปัตยกรรมโดยรอบอันงดงาม บรรยากาศก็ดี ทะเล ชายหาด ดำน้ำกูปะการัง ก็เยี่ยม ถือเป็นแหล่งทอ่งเที่ยวสำคัญของไทยเลยทีเดียว
ภูเก็ต เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 862 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะเดียวที่มีฐานะเป็นจังหวัด คำว่าภูเก็ต มาจาก" ภูเก็จ " ซึ่งมีความหมายว่าภูเขาแก้ว เคยเป็นที่ตั้งของมณฑลภูเก็ต เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เคยเป็นดินแดนแห่งเศรษฐีเหมืองแร่ดีบุก มีแร่ดีบุกมากที่สุดในประเทศไทย การขุดแร่ดีบุกมีประวัติมากว่า 500 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการปลูกยางพารา ทำสวนมะพร้าว ไม้ และทำการประมง อาคารในตัวเมืองภูเก็ตส่วนมากเป็นตึกสมัยเก่าแบบยุโรป ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทิศเหนือ จดท้องทะเล จังหวัดพังงา ทิศใต้ จดทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จดทะเลเขตกระบี่ ทิศตะวันตก จดทะเลอันดามัน ภูเก็ต เป็นเกาะที่สวยงาม มีชายทะเลขุนเขาสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวอย่างยิ่ง เกาะภูเก็ตมีลักษณะยาวเรียวจากเหนือไปใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงๆ ต่ำๆ มีที่ราบเป็นตอนๆ ประกอบด้วยบริวาร 39 เกาะ พื้นที่ของภูเก็ตเฉพาะที่เป็นดินประมาณ 543 ตารางกิโลเมตร เล็กที่สุดในภาคใต้ ส่วนยาวที่สุดวัดจากเหนือจดใต้ 48 กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุด 21 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออก เป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ถลาง และกะทู้
ต่อไปเรามาดู ทีเด็ด แห่งภูเก็ตกัน นั่นคือ ที่เที่ยวที่ถ้าไม่มาสัมผัสถือว่าไม่ถึงภูเก็ต







แหลมพรหมเทพ อยู่บริเวณทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต ถือเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเก็ต ชาวบ้านจะเรียกกันว่า แหลมเจ้า ซึ่งจากริมหน้าผาตลอดแนวลงสู่แปลายแหลม จะมีโขดหินให้สามารถเดินลงไปได้จนถึงปลายแหลม พร้อมกับชมวิวน้ำทะเล สีเขียวมรกต และมองเห็นเกาะแก้วที่อยู่หน้าแหลม ส่วนด้านขวาจะเป็นแนวหาดทรายยาวสวยงาม
แหลมพรหมทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยามมากใยหมู่นักนัทท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ยามเย็น เป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก และน่าประทับใจอย่างมากที่แหลมพรหมเทพ จะเห็นเป็นขอบฟ้าที่ทองค่อยๆเรือนรางหายไปพร้อมกับดวงอาทิตย์อัสดงสุดแสนงดงาม โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงมีนาคม ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชมกันอย่างหนาแน่นเป็นพิเศษ



ตึกโบราณสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส เมืองท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติอันงดงาม แห่ง ภูเก็ต ประกอบด้วยอาคารเก่าแต่มีสเน่ห์ ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ ธนาคารและอื่นๆ ซางสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยร้อยปีมาแล้ว ที่กิจการเหมืองเริ่มเติบใหญ่ ลักษณะตัวอาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้าง ประตู หน้าต่าง จะเป็นไม้ฉลุลาย
สถาปัตยกรรมเหล่านี้ในยุคแรก จะมีอิทธิพลจากจีนอยู่มาก วนใหญ่จะเป็นอาคารแถว 2 ชั้น หรือชั้นเดียว กำแพงจะหนา เพราะต้องใช้กำแพงรับน้ำหนักบ้านไว้ ส่วนหลังจะคาจะเป็นกระเบื้องโค้งแบบจีน มองโดยรอบบ้านจะเป็นแบบจีนทั้งหมด แต่สมัยต่อมา มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบยุโรปมากขึ้น จึงได้เรียกว่า สถาปัตยกรรม แบบ “ชิโน-โปรตุกีส”
ปัจจุบันสามารถพบเห็นสถาปัตยกรรม แบบชิโน-โปรตุกีส ได้ทั่วไปบริเวณ ถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราชและถนนกระบี่ ซึ่งถนนเหล่านี้จะแสดงถึงเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต และบอกเล่าวัฒนธรรมของเมืองภูเก็ต ในอดีตได้เป็นอย่างดี

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Light Reaction

ทดสอบ ICT กลุ่ม 2

การหายใจระดับเซลล์